Stranger Things ซีรีส์สุดลึกลับที่มีกลิ่นอายยุค 80s พาเราลุ้นตัวโก่งมาเดือนกว่า ๆ กำลังจะจบลงแล้วสำหรับ Stranger Things Season หนึ่งใน Netflix Originals ที่เป็นซีรีส์แจ้งเกิดชุดแรก ๆ ของ Netflix ซึ่งซีซั่นนี้มาแบบเหนือความคาดหมายมาก ทั้งการสร้างสรรค์พล็อตเรื่องและคาแรกเตอร์จัดจ้าน รวมไปถึงเทคนิคต่าง ๆ ที่ครบเครื่อง เรียกได้ว่าเหนือมาก หนังน่าดู netflix
เหนือถึงขั้นที่ว่าต้องรอตอนจบไปเดือนกว่า !! ระหว่างที่รอตอนจบ ในโซเชียลก็ออกมาวิเคราะห์ทฤษฎีต่าง ๆ netflix movie ที่จะเกิดในขึ้นในตอนจบของซีซั่นนี้ วิเคราะห์และแลกเปลี่ยนความเห็นกันจนกลายเป็นกระแสที่พูดถึงอย่างต่อเนื่องในตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา และอีกไม่นาน เราก็จะได้รู้กันสักทีว่าทฤษฎีไหนมันใช่ ! ทฤษฎีไหนมันปัง ! แต่ระหว่างที่รอนี้เรามาวอร์มอัพหน่อยดีกว่าว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้ Stranger Things ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องยาวนานมาถึงปีที่ 6 ตามไปดูกันเลย~~ สเตรนเจอร์ ธิงส์
1. ซีรีส์เข้มข้นแปลกใหม่ผสมผสานกลิ่นอายยุค 80s
Stranger Things ใครที่เป็นสายซีรีส์แนว Sci-Fi หรือชอบซีรีส์แนวย้อนยุคบอกเลยว่า Stranger Things คือส่วนผสมที่ลงตัวเอามาก ๆ ด้วยความเหนือจริงที่ถูกเล่าออกมาด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์บวกกับกลิ่นอายของยุค 80s ที่พาเราเข้าสัมผัสบรรยากาศตรงนั้นได้แบบจัดเต็ม !
ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้นในทุกตอน ทุกซีซั่น บวกกับความคาดเดาไม่ได้ของสถานการณ์หรือการตัดสินใจต่าง ๆ ของตัวละครที่บางทีก็ใส่ความ Herror ให้เราได้ตื่นเต้น นอกจากนี้เนื้อเรื่องยังค่อย ๆ พาคนดูแบบเราเข้าไปสืบสวนและหาคำตอบถึงจุดเริ่มต้นของความประหลาดที่เกิดขึ้นในฮอว์คินส์ นอกจากผลงานบทซีรีส์ที่น่าติดตามแล้วยังเสริมทัพด้วยคุณภาพงานอาร์ตไดที่สามารถจัดองค์ประกอบต่าง ๆ หนังน่าดู netflix
ให้เราเข้าถึงยุค 80s ได้อย่างไร้ที่ติ อีกสิ่งที่นับว่าได้ใจคนดูสุด ๆ ก็คงเป็นเรื่องของเทคนิกการเล่าเรื่องด้วยภาพที่ไม่ใช่เพียงแค่การตัดต่อที่ดีเลิศ หรือการใช้แสง สี เสียง เพียงเท่านั้นเรื่องของมุมภาพเองก็เรียกว่าซ่อนความ Upside Down เอาไว้ตลอดทั้งเรื่อง เพื่อที่จะตอกย้ำคนดูว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องที่เกิดขึ้นบนโลกธรรมดา แต่มันมีบางสิ่งที่มากกว่านั้น
2. เสน่ห์ของตัวละครที่พร้อมชวนคนดูเติบโตไปกับซีรีส์
หากใครเป็นแฟนพันธ์ุแท้ซีรีส์เรื่องนี้ นอกจากจะรอชมเนื้อเรื่องที่แปลกใหม่และคาแรกเตอร์ตัวละครที่น่าจับตามองในทุก ๆ ซีซั่นแล้ว ก็คงจะเฝ้าดูพัฒนาการการเติบโตของนักแสดงด้วย หลังจากซีซั่นแรกที่ปล่อยออกมาในปี 2016 ที่เล่าจุดเริ่มต้นมาจากเรื่องราวของเด็กน้อยกลุ่มหนึ่งที่ฝ่าฝันอุปสรรคและร่วมมือไขปริศนา จนกลายมาเป็นมิตรภาพที่แน่นแฟ้น ในซีซั่นถัด ๆ สเตรนเจอร์ ธิงส์
มาก็ได้เห็นตัวละครเติบโตขึ้นและตลอดเส้นทางที่ผ่านมาจนในปี 2022 กับซีซั่นล่าสุดที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นอย่างเต็มตัวแล้ว นอกจากกายภาพภายนอกของพวกเขาที่เปลี่ยนไป ความคิดของพวกเขาก็เปลี่ยนเช่นกัน ตลอดการเดินทางตั้งแต่ซีซั่น 1 จนถึงซีซั่น 4 นับเป็นระยะเวลาเกือบ 6 ปี ที่หลายคนโตมากับซีรีส์เรื่องนี้ จากวัยมัธยมก็เข้าสู่วัยมหาลัย หรือวัยมหาลัยก็เข้าสู่วัยทำงาน ซีรีส์เรื่องนี้ก็ได้ให้ข้อคิดและแง่มุมในเรื่องของมิตรภาพพร้อมกับความเติบโตขึ้นของตัวละคร ทั้งเรื่องของการกระทำที่ชวนเอาหลายคนมองย้อนกลับไปที่ตัวเอง หวนคิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ ของซีรีส์ที่เชื่อมโยงกับตัวเอง นับว่าเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของหนัง ‘Coming of age’
3. ชวนคนดูไปอินไปกับซีรีส์ ด้วยการสร้างประสบการณ์ใหม่ !
Stranger Things ขึ้นชื่อว่าเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่ทำให้ Netflix นั้นกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น สำหรับการกลับมาในซีซั่น 4 นี้ก็กลับมาอย่างท็อปฟอร์ม รับประกันความเล่นใหญ่ ชวนปลุกกระแส Talk of the town โปรโมทจัดเต็มทุกรูปแบบ netflix movie
เริ่มจากการมาเตือนว่าให้โลกรู้ว่า ‘ทุกอย่างกำลังจะพลิกผันกลับด้าน’ ตามโลก Upside Down โดยมีการสร้างปรากฏการณ์ ‘รอยแยกแห่งมิติ’ ที่เกิดขึ้นตามแลนด์มาร์คใน 14 ประเทศ ซึ่งในแต่ละที่ก็มีการสร้างบรรยากาศให้สอดคล้องกับพื้นที่และชวนให้ผู้คนตื่นเต้นกับปรากฏการณ์นี้ อย่างบริเวณ Duomo Square ในเมืองมิลาน ที่อยู่ ๆ ตอนกลางคืนก็เกิด สเตรนเจอร์ ธิงส์
‘รอยแยกแห่งมิติ’ บริเวณตัวพระราชวังคาร์มินาติ ต่อหน้าผู้คนตรงนั้น และในเช้าวันรุ่งขึ้น บรรยากาศบริเวณนั้นก็ถูกเนรมิตให้ย้อนกลับไปยุค 80 ที่ฝั่งออสเตรเรียก็มีปรากฏการณ์รอยแยกแห่งมิติเช่นกัน โดยเกิดขึ้นที่ชายหาด Bondi ก็สร้างความแตกตื่นอยู่ไม่น้อย เพราะ นักวิทยาศาสตร์สวมชุดป้องกันวัตถุอันตรายเข้ามาตรวจสอบ พร้อมกับไลฟ์การ์ดมากำหนดขอบเขตปลอดภัยรอบ ๆ บริเวณที่เกิดเหตุ
หรือจะเป็นทางอังกฤษ ถึงแม้ว่าไม่ได้ใช้แลนด์มาร์คในการโปรโมต แต่เขาก็เล่นกับความสงสัยของคนที่ผ่านไปมา บริเวณร้านพิซซ่าแห่งหนึ่งที่ยกเจ้าประตูทะลุมิติหน้าตาประหลาดมาวางบนป้ายโฆษณา ถ้าหากใครกล้าที่จะเดินข้ามประตูก็จะได้รับพิซซ่าไปกินฟรี !! พร้อมถ่ายรูปแบบจุใจ !! (รอยแยกนี้ก็ลวงคนเขาไปหลายคนแล้วนะครับ) หนังน่าดู netflix
4. ไม่เว้นช่วงให้คิดถึง เสิร์ฟคอนเทนต์หลากรสชาติระหว่างรอซีซั่นใหม่
การจะสร้างซีรีส์ภาคต่อสักเรื่องต้องใช้เวลาพอสมควร บางเรื่องก็ทิ้งช่วงหายไปเลย เพราะต้องทุ่มเวลาให้กับการถ่ายทำซีซั่นใหม่ ซึ่งอาจทำให้แฟน ๆ คิดถึงหรือลืมเรื่องในซีซั่นก่อน ๆ ไปแล้ว แต่สำหรับ Stranger Things นั้นในระหว่างที่แฟน ๆ รอคอยที่จะชมซีซั่นต่อไปก็ยังคงปล่อยภาพเบื้องหลังให้ชมอยู่เสมอและเพิ่มความพิเศษด้วยการจัดรายการเจาะลึกเบื้องหลัง สร้างหนังแอนิเมชันเรื่องสั้น หนังน่าดู netflix
5. ยืนหนึ่งในวงการ Collaborations ขยายกลุ่มเป้าหมายในทุกธุรกิจ
Stranger Things นับว่าเป็นซีรีส์ที่ Collaborations แทบจะทุกวงการแล้ว ตั้งแต่ของกิน ของเล่น จนไปถึงวงการเครื่องสำอาง! ซึ่งการคอลแลปแต่ละครั้งของเขาเป็นที่จดจำอย่างดี ด้วยการดึงคาแรกเตอร์ของแบรนด์ต่าง ๆ มาผสมกับคอนเซ็ปต์ของซีรีส์อย่างลงตัว อย่างล่าสุดในซีซั่น 4 ก็ได้จับมือกับ Domino’s Pizza พัฒนาแอปฯ ‘Mind Ordering’ ที่สามารถสั่งพิซซ่าได้ด้วย ‘พลังจิต’ ที่เป็นจุดเด่นของตัวละครจากซีรีส์ และภายในแอปฯ ก็ยังใส่ความเป็นบรรยากาศยุค 80s พร้อมพาลูกค้าเข้าไปสำรวจ Hawkins National Lab แบบในซีรีส์เลย netflix movie
