หนังน่าดู Netflix 2024

One Piece Film RED สีสันแปลกใหม่กับบทเพลงชวนหลงใหลจาก Ado แต่หลายจุดยังติดขัดจนไม่อาจกล่าวได้ว่า ‘สมการรอคอย One Piece Film RED คือภาพยนตร์อนิเมะลำดับที่ 15 และเป็นผลงานฉลองครบรอบ 25 ปีของมังงะยอดฮิตอย่าง One Piece โดยได้ โกโร ทานิกูจิ ผู้กำกับจาก Code Geass (2006) มารับหน้าที่ถ่ายทอดการผจญภัยของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางในครั้งนี้ one piece film red netflix รวมถึงได้ Ado ศิลปินสาวเสียงร้องทรงพลัง มารับหน้าที่ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์สุดไพเราะ One Piece 2024

One Piece Film RED ภาพยนตร์ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางที่ได้เดินทางไปยังเอเลเซีย หรือเกาะแห่งเสียงเพลง จึงนำพาให้ ลูฟี่ ได้มาพบกับ อูตะ เพื่อนสมัยเด็กที่ตอนนี้กลายเป็นนักร้องชื่อดัง จนได้รับการขนานนามว่าเป็นเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง แถมเธอยังเป็นลูกสาวของ แชงค์ โจรสลัดผมแดงผู้ยิ่งใหญ่อีกต่างหาก แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อความลับของอูตะถูกเปิดเผย ลูฟี่และกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางจึงต้องเข้ามาพัวพัน (อีกแล้ว) กับเหตุการณ์วุ่นวายครั้งนี้ one piece film red netflix

สำหรับแฟนๆ ที่ติดตามมังงะหรืออนิเมะ One Piece มาอย่างยาวนาน สิ่งหนึ่งที่หลายคนน่าจะรู้สึกคล้ายๆ กันคือ อาจารย์เออิจิโระ โอดะ ค่อนข้างให้ความสำคัญกับการปรากฏตัวของตัวละครสำคัญของเรื่องพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นตัวละครฝั่งโจรสลัดอย่าง 4 จักรพรรดิ หรือจะเป็น 5 ผู้เฒ่าของฝั่งรัฐบาลโลก ที่เมื่อไรก็ตามที่ตัวละครเหล่านี้ปรากฏตัว พวกเขามักจะมาพร้อมกับบทสนทนาสำคัญที่ขับเคลื่อนโลกของ One Piece ให้เราได้ติดตามเสมอ

ดังนั้นแล้วส่วนตัวผู้เขียนจึงคิดว่าการที่ภาพยนตร์เลือกหยิบหนึ่งในตัวละครที่มีบทบาทสำคัญมากที่สุดของเรื่องอย่าง แชงค์ และกลุ่มโจรสลัดผมแดง มาใช้เป็นประเด็นหลักของ One Piece Film RED ที่แม้ว่าจะไม่ได้ถูกนับเป็นเนื้อเรื่องหลักก็ตาม แต่ก็ถือเป็นโจทย์ที่ยากพอสมควรสำหรับผู้กำกับและทีมสร้าง ว่าพวกเขาจะนำเสนอเรื่องราวของผมแดงคนนี้ออกมาอย่างไรให้น่าสนใจและเหมาะสมจนไม่ไปทำลายเสน่ห์ของมังงะ

ซึ่งดูเหมือนว่าการสร้างสรรค์ตัวละครหลักอย่างอูตะ ในบทบาทของลูกสาวแชงค์ จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะผู้กำกับและทีมสร้างค่อนข้างผูกโยงเรื่องราวและปมปัญหาระหว่างอูตะ แชงค์ และลูฟี่ ออกมาได้น่าสนใจและผลักดันให้ประเด็นของเรื่องขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างลื่นไหลและสมเหตุสมผลพอสมควร One Piece

นอกจากนี้การปรากฏตัวของแชงค์และกลุ่มโจรสลัดผมแดงก็นับว่าทำออกมาได้ค่อนข้างลงตัว ไม่ได้มากเกินไปจนเสียเสน่ห์ของฉบับมังงะ แต่ก็ไม่ได้น้อยเกินไปจนไม่น่าจดจำ โดยเฉพาะฉากแอ็กชันในช่วงสุดท้ายที่เราได้เห็นแชงค์และกลุ่มโจรสลัดผมแดงออกโรงกันอย่างพร้อมหน้า ทีมสร้างก็นำเสนอฉากดังกล่าวออกมาได้อย่างทรงพลัง ซึ่งทำให้เราตื่นเต้นและตั้งตารอการปรากฏตัวของแชงค์และกลุ่มโจรสลัดผมแดงที่จะเกิดขึ้นในภาคสุดท้ายของ One Piece มากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า one piece film red netflix

อีกหนึ่งจุดเด่นที่เราชื่นชอบเป็นการส่วนตัว คือกลวิธีนำเสนอของภาพยนตร์ที่มีกลิ่นอายของมิวสิคัลอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งนับว่าเป็นรสชาติที่แปลกใหม่สำหรับ One Piece ฉบับภาพยนตร์ทีเดียว ทั้งการสร้างฉากคอนเสิร์ตของอูตะที่ผสมผสานงานแอนิเมชัน 2D และ 3D ออกมาได้อย่างสร้างสรรค์ การเลือกใช้เพลงหลากสไตล์ให้เหมาะกับเนื้อหาในแต่ละฉาก ไปจนถึงเสียงร้องอันทรงพลังของ Ado ที่สะกดเราได้อย่างอยู่หมัด โดยเฉพาะเพลง Where the Wind Blows ในช่วงสุดท้ายของเรื่องที่ทีมสร้างนำเสนอออกมาได้อย่างน่าประทับใจ จนทำให้เราต้องกลับไปย้อนฟังเพลงนี้วนอีกหลายครั้ง

และสำหรับใครที่อยากฟังอัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ของ Ado แบบเต็มๆ ก็สามารถไปตามฟังกันได้ที่นี่เลย One Piece
รวมถึงปมปัญหาหลักของอูตะที่ต้องการใช้พลังของตัวเองเพื่อสร้างโลกในอุดมคติขึ้นมา ผู้กำกับและทีมสร้างก็สามารถนำเสนอภูมิหลังและปมปัญหาของตัวละครออกมาได้อย่างมีน้ำหนัก และชักชวนให้เราทำความเข้าใจในการกระทำของเธอได้ว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจทำแบบนี้ แม้ว่าสิ่งที่เธอทำจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องก็ตาม อีกทั้งปมปัญหาดังกล่าวยังเสริมให้เราได้เห็นมิติของแชงค์ในฐานะพ่อและในฐานะกัปตันที่รักในตัวลูกเรือมากขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้กำกับและทีมสร้างจะสามารถนำเสนอเรื่องราวของอูตะและแชงค์ออกมาได้น่าสนใจ แต่ One Piece 2024 ก็ยังมีจุดที่เรารู้สึกเสียดายอยู่เช่นกัน ข้อแรกคือเนื่องจากในภาคนี้ทางทีมสร้างมีการใส่ตัวละครเข้ามาเยอะพอสมควร ด้วยความคาดหวังว่าตัวละครเหล่านี้จะชวนให้เรานึกถึงเรื่องราวที่เราเคยอ่านหรือเคยได้ชม

แต่ภาพยนตร์กลับกระจายบทบาทของตัวละครแต่ละตัวออกมาไม่ลงตัวเท่าไร และมีหลายตัวละครเหมือนกันที่เรารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องใส่เข้ามาก็ได้ มันจึงส่งผลให้ภาพยนตร์อัดแน่นไปด้วยตัวละครที่ไม่จำเป็นมากเกินไป และมีเนื้อหาที่ไม่จำเป็นต้องเล่าค่อนข้างเยอะจนทำให้เนื้อเรื่องดูยืดเยื้อไป แถมยังไปบดบังและตัดท่อนบทบาทของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางที่ควรจะเป็นตัวละครหลักของเรื่องอีกด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น การใส่ตัวละครเข้ามามากเกินไปยังส่งผลกระทบไปถึงฉากแอ็กชัน ที่ส่วนตัวเราค่อนข้างคาดหวังการโชว์พลังเท่ๆ ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง (โดยเฉพาะจินเบ) แต่ผู้กำกับและทีมสร้างกลับนำเสนอฉากการต่อสู้ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางออกมาได้ไม่ค่อยสมการรอคอยเท่าไรนัก โดยเฉพาะการแบ่งแอร์ไทม์ของสมาชิกแต่ละคนที่ไม่ลงตัวเท่าภาคก่อนๆ ยกเว้นเพียงฉากการร่วมมือกันระหว่างกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางและกลุ่มโจรสลัดผมแดงในตอนสุดท้าย ที่พอจะเป็นไฮไลต์ของเรื่องให้เรารู้สึกตื่นเต้นได้อยู่บ้าง One Piece 2024

บทความแนะนำ